Spicy Thai 23 Flashcards

1
Q

ไหน แต่ละคนไปดูผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยมาแล้วรึยัง

A

แต่ละ + classifier - each ผลสอบ - examination results

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
2
Q

เอ่อ เอาไงดีอ่ะ พ่อมาดักรอหน้าบ้านเลย

A

ดักรอ - to wait for someone in order not to miss him/her

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
3
Q

ก็บอกๆพ่อไปเถอะ หลบไม่ทันแล้ว

A

หลบ - to hide

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
4
Q

ดูแล้วค่ะพ่อ หนูสอบไม่ติด

A

สอบไม่ติด - fail an exam

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
5
Q

หนูก็นึกว่าจะติดแน่นอนแต่ก็ไม่ติดเหมือนกันค่ะ

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
6
Q

หนูก็เหมือนพี่ลินกับดี้อ่ะค่ะ

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
7
Q

อะไรกัน ไม่มีใครสอบติดสักคนเลยเหรอเนี่ย พ่อต้องเปลืองตังค์ส่งเข้ามหาวิทยาลัยเอกชน สามคนเลยล่ะสิทีนี้ แพงก็แพง คุณภาพสู้มหาวิทยาลัยรัฐบาลก็ไม่ได้

A

เปลืองตังค์ - waste money สู้ - fight มหาวิทยาลัยรัฐบาล - public university

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
8
Q

พ่อรวยจะแย่ ลูกก็มีอยู่แค่สามคน

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
9
Q

ทำยังไงได้ล่ะคะ ก็หัวมันไม่ไปจริงๆนี่ค่ะ เราเลือกเกิดมาเป็นคนฉลาดไม่ได้

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
10
Q

ใช่ค่ะ พวกเราไม่เหมาะกับการเรียน ทำอย่างอื่นน่าจะรุ่งกว่า

A

รุ่ง - to prosper, to succeed, to do well

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
11
Q

สมเป็นฝาแฝดกันจริงๆ เหมือนกันทุกอย่างแม้แต่เรียนก็ไม่เอาไหน ไม่ได้อ่านหนังสือสอบ เลยล่ะสิท่า วันๆเห็นเล่นแต่มือถือ

A

สม - be suitable ; be well matched ฝาแฝด - twin

verb+ ไม่เอาไหน - to be bad at doing something อ่านหนังสือสอบ - study for an exam

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
12
Q

ก่อนสอบหนึ่งวันเราไม่ได้เล่นมือถือเลยนะคะ

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
13
Q

นี่อย่าบอกนะว่าเตรียมตัววันเดียว คนอื่นเขาเตรียมตัวกันเป็นปี - พ่ออย่าบอกแม่ได้ไหมคะ

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
14
Q

ใช่ค่ะ แม่กำลังเที่ยวสนุกๆ บอกข่าวร้ายตอนนี้เดี๋ยวหมดสนุก

A

ข่าวร้าย - bad news หมดสนุก - to lose the mood, to stop enjoying

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
15
Q

ฮัลโหล น้ำฝนเหรอ ไม่ต้องลุ้นแล้วนะ รู้ผลแล้ว ไม่มีใครสอบติดสักคน เดี๋ยวคุณกลับมาเราเอา ของขวัญที่เตรียมไว้ให้ลูกไปแจกหลานกัน

A

ลุ้น - anticipate anxiously แจก - to give away, to hand หลาน - niece, nephew

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
16
Q

พ่อแม่เตรียมของขวัญให้เราด้วย อดได้เลย

A

อด - refrain, go without

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
17
Q

แม่อย่าโกรธพวกเรานะคะ

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
18
Q

เออ ความคิดดีนี่ งั้นตามนี้ก็แล้วกัน โอเค คุณก็ไม่ต้องเครียดนะ เที่ยวให้สนุก เดี๋ยวผมจัดการเอง

A

ตามนี้ - as said จัดการ - to manage

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
19
Q

ซวยแล้ว พ่อกับแม่วางแผนอะไรกันก็ไม่รู้

A

ซวยแล้ว - shoot! วางแผน - to plan

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
20
Q

แม่กับพ่อคุยกันแล้ว อยู่ด้วยกันแล้วพากันแย่ เราจะส่งลูกไปแลกเปลี่ยนคนละประเทศ ระหว่างช่วงปิดเทอมนี้

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
21
Q

ไม่เอา หนูกลัว หนูพูดอังกฤษไม่เป็น

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
22
Q

หนูก็กลัว หนูก็พูดไม่เป็น ไม่อยากอยู่คนเดียวด้วย

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
23
Q

ไปประเทศที่พูดภาษาอังกฤษนะคะพ่อ

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
24
Q

แมนโดลินพูดอังกฤษได้พ่อจะส่งไปญี่ปุ่น เมดเล่ย์ไปอเมริกา เมโลดี้ไปเยอรมัน

A

.

How well did you know this?
1
Not at all
2
3
4
5
Perfectly
25
อ่าว ทำไมทำอย่างงี้อ่ะคะพ่อ หนูพูดญี่ปุ่นไม่เป็น | ให้หนูไปอเมริกาไม่ได้เหรอคะ
.
26
ประเทศไหนหนูก็ไม่เอา หนูกลัว
.
27
หนูก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น จะอยู่กับพ่อแม่
.
28
ถึงเวลาโตได้แล้วล่ะ อายุป่านนี้เกาะพ่อแม่อย่างกับเด็กสามขวบ กลับมาจะได้กล้าๆ ไปดูสิว่าเด็กต่างประเทศเขาขยัน เขารับผิดชอบตัวเองดีแค่ไหน
ป่านนี้ - even now ; thus far ; by now เกาะ - to rely on, to hold onto
29
ตามนี้แหละ พ่อกับแม่เลี้ยงลูก | แบบเอาใจมานานแล้ว ถึงเวลาเข้มงวดสักที
เข้มงวด - to be strict
30
รู้อย่างนี้ตั้งใจอ่านหนังสือสอบก็ดี ประเทศที่พูดภาษาอังกฤษมีตั้งเยอะดันให้ไปญี่ปุ่น จะสั่งอาหารกินรู้เรื่องไหมเนี่ย เฮ้อ กลุ้ม
ตั้งเยอะ - much ; many ; much more กลุ้ม- worry ; depress ; distress
31
ญี่ปุ่นยังดีเอเซียเหมือนกัน มองตากันก็เข้าใจ เยอรมันนี่ดิมีคนพูดภาษาไทยได้ไหมอ่ะ ศัพท์เยอรมันก็ไม่ได้สักคำ
.
32
นอกจากเมอร์ซิเดสเบนซ์ โวสวาเกน กับบีเอ็มดับเบิ้ลยูก็ไม่รู้คำอื่นเลย จะสื่อสารกับเขายังไงเนี่ย
สื่อสาร - communicate บีเอ็มดับเบิ้ลยู - BMW เบนซ์ - Benz
33
บีเอ็มดับเบิ้ลยูมันภาษาอังกฤษ - ขอบคุณ
.
34
เยอรมันยังโอเคอ่ะ คนอเมริกันเนี่ยสิเป็นไงก็ไม่รู้ จะโดนฝรั่งแกล้งไหมก็ไม่รู้ แบบในเรื่อง "Mean Girls" อ่ะ ไม่เอาเลยนะ
แกล้ง - to pick on, to play a prank on
35
เฮ้อ เครียด แล้วจะมีอาหารไทยกินไหมเนี่ย แพ้ชีส แพ้นม แพ้ไข่ ดันถูกส่งไปประเทศฝรั่ง
แพ้ - allergic
36
ครับ สามคนครับ ออกเดินทางวันที่สิบเดือนหน้าใช่ไหมครับ โอเคครับ ได้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ผม ไปจ่ายเงินเลยนะครับ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ
.
37
พ่อมาดักรอเด็กๆทั้งสามคนหน้าบ้านทำไม | -เพราะจะถามลูกๆเกี่ยวกับผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย
.
38
ลูกทั้งสามคนรู้สึกยังไงกับผลสอบของตัวเอง | - ไม่ได้เสียใจมากแต่กลัวพ่อแม่โกรธและผิดหวัง
.
39
ทำไมพ่อถึงไม่อยากให้ลูกเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชน
.
40
เพราะค่าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแพง แล้วคุณภาพก็ไม่ดีเท่ามหาวิทยาลัยรัฐบาลด้วย
.
41
ทำไมพ่อถึงยังโมโหอยู่ตอนที่เมดเล่ย์บอกว่าก่อนสอบเขาอ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ได้เล่นมือถือ - เพราะเขาทำอย่างนั้นอยู่แค่วันเดียว
.
42
เด็กสามคนนี้ ใครเป็นพี่คนโต ใครเป็นน้องคนเล็ก อายุห่างกันกี่ปี
.
43
แมนโดลินเป็นพี่คนโต เมโลดี้เป็นน้องคนเล็ก แต่จำนวนปีเท่ากัน เพราะพวกเขาเป็นฝาแฝด
.
44
ถ้าลูกสอบผ่าน พ่อกับแม่ตั้งใจจะทำอะไรให้ | - ให้ของขวัญ
.
45
ทำไมพ่อกับแม่ถึงจะส่งลูกไปเรียนที่ต่างประเทศ
.
46
เพราะเขาคิดว่าลูกสามคนอยู่ด้วยกันแล้วชวนกันเล่น เลยจะให้แยกกันอยู่ และก็จะได้เรียนรู้ ที่จะรับผิดชอบต่ออนาคตตัวเอง
.
47
ทำไมพ่อถึงให้แมนโดลินไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น- เพราะแมนโดลินพูดภาษาอังกฤษได้ พ่ออยากให้ไปลองใช้ชีวิตลำบากดู
.
48
เมโลดี้คิดว่าแมนโดลินได้ไปญี่ปุ่นดีกว่าเขาที่ได้ไปเยอรมันเพราะอะไร
.
49
เพราะอย่างน้อยคนญี่ปุ่นก็ยังเป็นคนเอเซียเหมือนคนไทย น่าจะเข้าใจกันง่ายกว่า ถึงจะพูดกันคนละภาษา
.
50
เมดเล่ย์ไม่อยากไปอเมริกาเพราะอะไร | - เพราะเขากลัวจะโดนฝรั่งแกล้งเหมือนในหนังที่เขาเคยดู แล้วก็กลัวไม่มีอาหารกิน เพราะเขากินไข่ นม ชีสไม่ได้
.
51
พ่อบอกผลสอบของเด็กๆให้แม่ฟังทางโทรศัพท์ | ถูก
.
52
แม่ไปเที่ยวเพราะไม่สนใจรอฟังผลสอบของลูก | ผิด
.
53
เด็กสามคนนี้มีกันอยู่แค่สามคน ไม่มีพี่น้องคนอื่นอีก | ถูก
.
54
พ่อกับแม่ไม่เคยเข้มงวดกับลูกทั้งสามคนมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ถูก
เข้มงวด - strict
55
เมโลดี้ไม่อยากไปเยอรมันเพราะพูดไม่ได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมัน ถูก
.
56
ใส่ๆไปเถอะ สีอะไรก็ได้ แค่ใส่ไปล้างรถ เลือกซะนาน
.
57
นั่งๆไปเถอะ เดี๋ยวคนพิการมาค่อยลุกให้นั่ง อย่าหลับแล้วกัน
คนพิการ - handicapped person ลุก - stand up
58
กินๆไปเถอะ ไม่ต้องมานั่งนับแคลอรี่หรอก นี่ผักต้มนะไม่ใช่เทมปุระ
นับ - to count แคลอรี่ - calorie เทมปุระ - battered deep fried (tempura)
59
ถ่ายๆไปเถอะ ไม่ต้องกลัวเปลืองแบต วิวสวยกว่าหน้าฉันนี่ไม่มีแล้ว
ถ่าย - take a picture เปลือง - waste แบต - battery
60
โดนรัศมีโยนความผิดให้เหมือนกันเหรอ ตาสว่างแล้วล่ะสิทีนี้
รัศมี - Ratsami โยนความผิด - put the blame ตาสว่าง - be well-informed ล่ะสิ - (particle used when stating something that was obvious or implied from the context)
61
ใส่ส้นสูงแต่เปลี่ยนใจไปเดินเขาแทนเหรอ เมื่อยเลยล่ะสิทีนี้
ส้นสูง - high-heels เมื่อย - feel stiff
62
แฮกไวไฟห้องข้างๆไม่สำเร็จเหรอ อดเล่นเน็ตเลยล่ะสิทีนี้
แฮก - hack ไวไฟ - WiFi อด - go without
63
ฉันมาลองเสื้อที่ร้านแล้วถอดไม่ได้ ทำยังไงดีล่ะทีนี้ คงต้องซื้อไปเลย
ถอด - take off
64
อยากดูเรื่องนี้มากล่ะสิท่า ถึงกับยอมนั่งแถวหน้าสุด เมื่อยคอแย่
แถวหน้าสุด - front row
65
รถเก่าแล้วอ่ะสิท่า ได้ยินเสียงสตาร์ทเครื่องสิบรอบแล้วยังไม่ออกรถสักที
.
66
ชอบมากล่ะสิท่า ขึ้นไปนั่งแล้วไม่ยอมลุกเลย ให้คนอื่นเล่นบ้างลูก
.
67
คงจะรังเกียจคนจนมากล่ะสิท่า เห็นบ้านผมประตูสังกะสีแล้วปวดหัวขึ้นมาเลย
รังเกียจ - hate สังกะสี - galvanized iron
68
นี่อย่าบอกนะว่าคุณเอาผ้าเช็ดหน้าผมไปเช็ดเท้า
ผ้าเช็ดหน้า - handkerchief
69
นี่อย่าบอกนะว่าเธอกะจะไปดูธารน้ำแข็งที่เชียงใหม่
ธารน้ำแข็ง - glaciers
70
นี่อย่าบอกนะว่าที่จอดรถเต็ม เมียอุตส่าห์เสียสละยอมเดินไปทำงาน
เสียสละ - sacrifice
71
นี่อย่าบอกนะว่าคุณอยากกลับบ้านแล้ว เพิ่งมาถึงได้สิบนาทีเอง
.
72
ถ้าได้เพื่อนดีก็ดีนะ จะได้พากันเรียน
.
73
หาแฟนที่เคร่งศาสนาเหมือนเธอสิ จะได้พากันเข้าวัด
เคร่ง - strict ศาสนา - religion
74
ตั้งแต่เราคบกันน้ำหนักก็เพิ่มขึ้นมาคนละสิบกิโล ชอบพากันกิน
.
75
ตัวเองติดยาแล้วยังไปคบกับคนติดบุหรี่อีก อย่างนี้จะมีแต่พากันเสียคน
.
76
เล่ย์ ดี้ ได้ยินพี่ไหม - ได้ยินๆ เปิดกล้องด้วย มองไม่เห็นวีดีโอ
.
77
เห็นยัง - เห็นละ - มีใครเห็นดี้ไหม
.
78
เห็น พี่ลิน ตอนนี้ที่โอซาก้ากี่โมงอ่ะ - บ่ายโมงพอดีเลย ที่นิวยอร์กล่ะ
.
79
เที่ยงคืนแล้ว วันหลังคุยเร็วๆกว่านี้หน่อยนะ เริ่มง่วงแล้ว
วันหลัง - in the future/later
80
ตอนนี้ที่มิวนิกหกโมงเช้า วันหลังคุยเร็วกว่านี้ก็ตีสี่ตีห้าน่ะสิ
.
81
เวลานี้ดูเหมือนจะโอสุดแล้วนะ - แหม ดีสำหรับพี่ลินอยู่คนเดียว
.
82
ตกลงจะคุยไม่คุย - คุยๆ ดี้อยู่นี่เหงามากเลย ถึงได้ยอมตื่นมาคุย
.
83
หาคนพูดไทยไม่ได้เหรอ
.
84
ไม่มีเลย รู้งี้น่าจะตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษแบบพี่ลิน
รู้งี้ - if I had known it'd be like this
85
ที่นี่คนส่วนมากก็พูดอังกฤษไม่ค่อยคล่อง แต่ยังดีร้านอาหารมีรูปในเมนู เลยใช้ชี้ๆเอา แต่บางร้านมีแต่ตัวญี่ปุ่นก็ต้องสุ่มเอา
ชี้ - to point สุ่ม - pick randomly
86
ดี้ก็ส่วนใหญ่สั่งตามคนข้างหน้า เห็นคนอื่นสั่งอะไรก็บอกพนักงานเสิร์ฟว่าไอวอนท์เซมฮี
ไอวอนท์เซมฮี - 'I want same he' (transliteration)
87
โอ้โห อังกฤษดีมาก - เขาเข้าใจก็แล้วกัน
.
88
พูดได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว เล่ย์ยังไม่เคยสั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษเลย ตั้งแต่มานี่ก็กินแต่ร้าน อาหารไทย
.
89
โชคดีมานิวยอร์ก ไปเมืองอื่นคงหากินยาก แต่อาหารไทยที่นี่แพงมากเลย กินบ้านเรา ถูกกว่าห้าถึงสิบเท่า
.
90
ระวังงบหมดนะ พ่อให้มาคนละแสนห้าเอง จัดการดีๆนะ ก่อนขึ้นเครื่องพ่อบอกว่า ห้ามขอเพิ่มด้วย
งบ - budget
91
มีใครโหดกว่าพ่อเราอีกไหม
โหด - to be cruel
92
มี แม่เราไง จริงๆที่ส่งเรามาเมืองนอกนี่แม่เป็นคนคิดนะ - เออ จริง
.
93
แต่เอาจริงๆ เล่ย์กลับรู้สึกว่าพ่อแม่เราใจดีนะ เล่ย์เห็นคนอายุพอๆกับเราทำงานอยู่ใน ร้านอาหารตั้งเยอะ อย่างน้อยพวกเราก็ไม่ต้องทำงานนะ
.
94
ก็จริง เด็กญี่ปุ่นก็ทำงานพาร์ทไทม์กันเยอะเหมือนกัน
พาร์ทไทม์ - part-time
95
แต่เขาก็ไม่ถูกพ่อแม่ไล่ไปอยู่ต่างประเทศคนเดียวนะ นี่ตั้งแต่มายังไม่มีเพื่อนเลย คนเยอรมันส่วนใหญ่พูดอังกฤษได้นะ แต่ดี้ดันฟังไม่รู้เรื่อง
.
96
เล่ย์ก็มีแต่เพื่อนคนไทย พวกที่ทำงานที่ร้านอาหารไทยอ่ะ รู้จักหมดแล้วเพราะไปกินทุกวัน
.
97
พ่อแม่จะผิดหวังไหมเนี่ย ทักษะการเอาตัวรอดของพวกเราสูงเกินไป เราพยายาม เรียนภาษาของเขาบ้างก็ดีเหมือนกันนะ
ทักษะ - skill เอาตัวรอด- to manage to survive/to get by
98
เรียนอังกฤษยังพอไหว เรียนเยอรมันคงไม่ได้ เห็นตัวอักษรก็ตาลายแล้ว แต่ละคำ ยาวกว่าภาษาไทยแปดเท่า
ไหว - can, be able to ตัวอักษร - alphabet ตาลาย-to get dizzy
99
แล้วของพี่ไม่ยิ่งกว่าเหรอ อย่างน้อยภาษาเยอรมันก็เป็นตัวอักษรเหมือนในภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่นนี่ดิอ่านไม่ออกสักตัว
.
100
เดาก็ไม่ได้ แถมสถานที่ส่วนใหญ่ไม่มีภาษาอังกฤษให้ด้วยนะ มีแต่ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ
.
101
ท่าทางเล่ย์โชคดีสุด ถึงพูดอังกฤษได้แบบงูๆปลาๆแต่เวลาอ่านก็พอจะเข้าใจ แต่จะบอกว่าที่นี่อากาศหนาวมากๆเลยอ่ะ
ท่าทาง - appearance พูดได้แบบงูๆปลาๆ - fluently
102
สิบสององศาเอง ที่โอซาก้าคงอากาศเย็นๆสบายๆล่ะสิ
.
103
ใช่ ตอนนี้ประมาณยี่สิบองศา กำลังดีเลย
.
104
แค่สิบสององศาทำเป็นบ่น ตอนนี้มิวนิกเจ็ดองศาเอง แถมนะอากาศหนาวทำให้ปวดฉี่ ตลอดเวลา ที่นี่ไม่มีห้องน้ำให้เข้าฟรีด้วยนะ เข้าทีก็ต้องจ่ายหนึ่งยูโร
.
105
เหรอ ญี่ปุ่นมีห้องน้ำให้ใช้ฟรีตามสถานีรถไฟแล้วก็ตามร้านสะดวกซื้อ พี่เข้าห้องน้ำ ในเซเว่นตลอด
.
106
เหรอ ดีอ่ะ แล้วเดินทางสะดวกป่ะ
.
107
สะดวกมากๆเลย นั่งรถไฟฟ้าไปได้ทุกที่ แต่แท็กซี่แพงมาก
.
108
ที่เยอรมันก็แท็กซี่แพง แต่ประทับใจแท็กซี่ที่นี่อ่ะ มีแต่เบนซ์กับบีเอ็ม
.
109
จริงดิ สุดยอดว่ะ เล่ย์อยู่นิวยอร์กส่วนใหญ่ใช้เดินเอา รถไฟฟ้าก็มีแต่คนที่นี่ชอบเดิน อากาศก็ดีนะ
สุดยอด - incredible, wow
110
ไหนเมื่อกี้บ่นว่าหนาวไง
.
111
ที่เมกาตอนเช้ากับตอนกลางคืนอุณหภูมิต่างกันหลายองศาอ่ะ อย่างตอนนี้สิบสองใช่มะ เดี๋ยวพอกลางวันก็จะยี่สิบสามอะไรงี้ อากาศดีเว่อร์
เมกา - America
112
เอาจริงๆไปๆมาๆพี่ก็เริ่มรู้สึกชอบอยู่ที่นี่แล้ว ทุกอย่างสะดวกสบายแถมไม่ต้อง เจออากาศร้อนๆ ถึงอาจจะลำบากเรื่องสื่อสารกับเรื่องไม่ได้อยู่กับครอบครัว
สื่อสาร - communicate
113
เริ่มขี้เกียจกลับไทยแล้ว เราตั้งใจเรียนแล้วขอพ่อมาเรียนต่างประเทศดีกว่า เอาไหม
.
114
อืม นั่นสิ เด็กฝรั่งอายุเท่าเรายังทำงานทำอะไรได้เองไม่ต้องพึ่งพ่อแม่ เราก็น่าจะอยู่ด้วย ตัวเองได้เหมือนกัน
.
115
มาเรียนมหาวิทยาลัยเมืองนอกดีกว่าจะได้ฝึกความรับผิดชอบ ชีวิตเราที่เมืองไทย สบายเกินไปเลยสนใจแต่เรื่องไร้สาระ
เรื่องไร้สาระ - nonsense
116
โห พี่ลินกับดี้เปลี่ยนความคิดเร็วขนาดนี้เลยเหรอ งั้นถึงตอนนั้นรอคุยสไกป์กับพ่อแม่ แล้วก็เล่ย์ได้เลย วันนี้แค่นี้ก่อนแล้วกัน เล่ย์ว่าจะเล่นมือถือก่อนนอนสักหน่อย กู๊ดไนท์นะ
ถึงตอนนั้น - when the time comes
117
ทำไมเมโลดี้ต้องตื่นมาคุยกับแมนโดลินกับเมดเล่ย์ตอนหกโมง - เพราะถ้าสายกว่านี้จะดึกเกินไปสำหรับเมดเล่ย์
.
118
แมนโดลินสั่งอาหารที่ญี่ปุ่นยังไง | - ชี้รูปอาหารในเมนู
.
119
ทำไมเมดเล่ย์ถึงไม่มีปัญหาเรื่องการสั่งอาหารที่อเมริกา | -เพราะเขาไปกินแต่ร้านอาหารไทย
.
120
ทำไมแมนโดลินถึงบอกว่าพ่อโหด - เพราะพ่อย้ำชัดเจนว่าจะไม่ให้เงินเพิ่ม ต้องใช้เงินให้อยู่ในวงจำกัดแสนห้า
ย้ำ - repeatedly ชัดเจน - clearly วงจำกัด- limit, scope
121
ทำไมเมโลดี้ถึงคิดว่าแม่ใจร้ายกว่าพ่อ - เพราะแม่เป็นคนคิดวางแผนจะส่งพวกเขามาแลกเปลี่ยนที่เมืองนอก
.
122
เมดเล่ย์คิดยังไงเกี่ยวกับพ่อแม่ของเขา
.
123
คิดว่าใจดีกว่าพ่อแม่ของคนอื่น เพราะอย่างน้อยก็ไม่เคยให้พวกเขาต้องทำงานลำบาก
.
124
ทำไมแมนโดลินถึงพูดว่าทักษะการเอาตัวรอดของพวกเขาสูงเกินไป
.
125
เพราะพวกเขาไม่พยายามเรียนรู้ภาษา แต่ใช้วิธีอื่นที่ไม่ต้องใช้ภาษาในการสื่อสาร
.
126
เมดเล่ย์รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่สุดเพราะอะไร
.
127
เพราะเขาได้อยู่ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ถึงไม่เก่งแต่ก็เข้าใจมากกว่าพี่น้องของเขาที่ต้อง อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นภาษาญี่ปุ่นกับเยอรมัน
สิ่งแวดล้อม - surroundings, environment
128
เมโลดี้บ่นอะไรเกี่ยวกับเมืองมิวนิก และประทับใจอะไรเกี่ยวกับเมืองมิวนิก
.
129
บ่นเรื่องอากาศหนาวและค่าเข้าห้องน้ำ และประทับใจที่แท็กซี่ที่นั่นมีแต่ยี่ห้อเบนซ์กับบีเอ็ม
.
130
ทำไมเมดเล่ย์ถึงบอกว่า “งั้นถึงตอนนั้นรอคุยสไกป์กับพ่อแม่แล้วก็เล่ย์ได้เลย”
.
131
เพราะเขาไม่มีความคิดที่จะขอพ่อแม่ไปเรียนต่อต่างประเทศเหมือนพี่น้อง
.
132
เมโลดี้พูดภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องตอนสั่งอาหารแต่พนักงานเสิร์ฟก็เข้าใจ ถูก
.
133
เมดเล่ย์อยากทำงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหารมากกว่ามาเรียนที่ต่างประเทศคนเดียว ผิด
.
134
ตั้งแต่ไปอยู่ต่างประเทศ เมโลดี้ไม่มีเพื่อนแม้แต่คนเดียว แต่เมดเล่ย์มีเพื่อนเยอะ ถูก
.
135
เมโลดี้มีความตั้งใจที่จะเรียนภาษาเยอรมัน | ผิด
.
136
เด็กทั้งสามคนเปลี่ยนใจอยากย้ายมาอยู่ต่างประเทศแทน | ผิด
.
137
นี่ก็ขับช้ามากแล้วนะ ช้ากว่านี้ก็จอดน่ะสิ
.
138
สวนนี้ก็อยู่ห่างจากบ้านแค่สามนาทีเอง ใกล้กว่านี้ก็สวนหลังบ้านน่ะสิ
ห่าง - far away
139
สี่ชิ้นห้าบาทก็ถูกมากแล้วนะ อยากได้ถูกกว่านี้ก็ต้องของแจกฟรีน่ะสิ
แจก - to distribute
140
ห้องเราก็อยู่ชั้นสูงแล้วนะ สูงกว่านี้ก็ดาดฟ้าน่ะสิ หรือจะไปนอนดาดฟ้า
ดาดฟ้า - deck
141
รู้งี้น่าจะเรียนอย่างอื่น ไม่ชอบศพเลย ผมไม่เป็นหมอแล้วได้ไหมครับ
ศพ - corpse
142
รู้งี้ไม่น่าให้เขาแซงคิวเลย นึกว่ามาคนเดียวเรียกเพื่อนมาอีกสิบคน
รู้งี้ - if I had known it would be like this | แซง - overtake
143
รู้งี้น่าจะเตรียมครัวซ็องมากินเองบนเครื่องบิน ไม่ชอบดินเนอร์โรลเลย
ดินเนอร์โรล - dinner roll
144
รู้งี้น่าจะลดความอ้วนหลังแต่งงาน นี่ต้องกินเผื่อเด็กในท้องอีกสี่คน คงกลับมาผอมยาก
.
145
พ่อสามียังพอไหว ถ้าให้ไปเจอแม่สามีล่ะก็ขอบาย
พอไหว - I can handle
146
ให้ว่ายน้ำกับปลาโลมายังพอไหว ว่ายกับปลาวาฬเพชฌฆาต ฉันกลัว
ปลาโลมา - dolphins ปลาวาฬเพชฌฆาต- killer whales
147
ให้ขอโทษแต่ปากยังพอไหว ถ้าจะให้ยกมือไหว้ด้วยฉันไม่ทำแน่นอน
พอไหว - I can handle ยกมือ- agree
148
ได้ที่โหล่ยังพอไหว แต่นี่ได้ที่โหล่แล้วโดนซ้ำชั้นอีก ฉันล่ะกลุ้ม
โหล่ - last ; rearmost ; hindmost
149
คุณแค่กลัวผี น้องผมไม่ยิ่งกว่าเหรอ กลัวทุกอย่างทั้งสัตว์ ผี คน
.
150
วันนี้แค่พาลูกค้าไปกินสามชั่วโมง พรุ่งนี้ไม่ยิ่งกว่าเหรอ ต้องไปฟังเทศน์ตั้งห้าชั่วโมง
.
151
คุณแค่เตะไม่เข้าโกลเอง ผมไม่ยิ่งกว่าเหรอ เตะไม่เข้าแถมโดนคนอื่นเตะแข้งอีก
แข้ง - shin อีก- as well
152
คุณแค่เข้าห้องน้ำผิดไปเข้าห้องน้ำผู้ชาย ผมไม่ยิ่งกว่าเหรอ ไปเข้าผิดเป็นห้องน้ำผู้หญิง
.
153
ขอยืมคอมแค่นี้ทำเป็นเกรงใจ ตอนมาขอยืมเงินไม่เห็นเกรงใจแบบนี้เลย
.
154
เขายิ้มให้แค่นี้ทำเป็นเขิน รีบเข้าไปขอลายเซ็นสิ เขายิ้มให้คนอื่นไปกี่คนแล้ว
ลายเซ็น - signature เขิน - blushing
155
แค่แข่งร้องเพลงชนะทำเป็นอวด เขาได้รางวัลแกรมมี่สามปีซ้อนยังไม่เห็นจะมาคุยโอ้อวดแบบคุณเลย
แข่ง - compete อวด - boasted
156
แค่นั่งเครื่องบินแปดชั่วโมงทำเป็นเหนื่อย ลองมาขับรถบรรทุกวันละแปดชั่วโมงแบบผมสิ
.