พิธีการทูต Flashcards
กลัดกระดุม
สากล 2 ชิ้น (Two-piece Suit ) กระดุม 2 เม็ด กลัดกระดุมเม็ดบน อย่ากลัดกระดุมเม็ดใน
สากล 2 ชิ้น กระดุม 3 เม็ด กลัดกระดุมเม็ดกลาง
สากล 3 ชิ้น (Three-piece Suit) เมื่อใส่เวสโคทแล้วไม่กลัดกระดุมเม็ดล่าง และจะไม่กลัดกระดุมเสื้อนอก ( เว้นเสื้อนอกกระดุมสองแถว )
คนหน้าใหญ่ กลม เหลี่ยม ควร
ใช้เสื้อเชิ้ตคอปกตัดแหลมลึก ผูกเงื่อนเนกไทแบบ 4 ตวัด ปมที่ติดคอจะออกมาเฉียงแบบนายกฯ อภิสิทธิ์
เนกไทที่เหมาะสม
- อย่าใช้เสื้อยืดที่มีคอเชิ้ตผูกเน็คไท (เคยพบเห็น - ไม่สุภาพ)
- ต้องกลัดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตทุกครั้งที่ใส่เน็คไท และดึงเน็คไทให้ตึงเสมอ
- การเลือกเน็คไท ควรเลือกสีหรือลายที่เหมาะสมและเรียบๆ เข้ากับสูทและไม่ควรใช้เส้นเล็ก หรือใหญ่เกินไป
- กว้างระหว่าง 2-4 นิ้ว ปลายแหลมคลุมหัวเข็มขัดพอดี ข้าราชการหรือผู้มีสังกัดควรใช้เนกไทลายขวาง
- เน็คไทและโบว์ไท ต้องเป็นแบบผูก อย่าใช้แบบเกี่ยวกับคอเสื้อ
- อย่าใช้เน็คไทสีฉูดฉาด หรือมีลวดลาย เช่น ต้นไม้ ดอกไม้โตๆ ภาพเรือใบ ฯลฯ ดูแล้วไม่สุภาพ ควรใช้สีเรียบๆ สีสุภาพจะเป็นสีแดง, น้ำเงิน, หรือสีแดงสลับน้ำเงิน
- เมื่อผูกเน็คไท อย่าให้เส้นหลังยาวกว่าเส้นหน้า ( ปลายเส้นหน้าควรอยู่เสมอเข็มขัด )
- การใช้ผ้าพันคอ ( Scarf ) นั้น ไม่ควรพันคอหลายๆ รอบแต่ควรใช้ชายขวาทับชายซ้าย และใส่ Overcoat ทับอีกทีหนึ่ง
- โบว์ไทมักใช้กับผู้ชายที่มีความอ่อนโยนแบบผู้หญิง โดยปกติแล้วมักไม่ใช้ เว้นแต่กรณีงานที่ระบุ White Tie หรือ Black Tie
การใช้ที่หนีบเนคไท
เมื่อสวมเสื้อนอกไม่ควรใช้ที่หนีบเนกไท จะใช้เมื่อไม่สวมเท่านั้นและอย่าหนีบตรงกับกระเป๋าเสื้อ ให้หนีบในระดับ 1 ใน 3 วัดจากด้านล่าง ส่วนเข็มกลัดให้ติด 1 ใน 3 วัดจากด้านบน
ว่าด้วยเรื่องสูท
- เสื้อนอกอกเดี่ยว กระเป๋าเฉียง: อังกฤษ
- กระเป๋าตรง: อเมริกัน
- กระดุมสองแถว หน้าหนาวกระเป๋าเสื้อเป็นแบบแปะ หน้าร้อนใช้กระเป๋าแบบเจาะ: ยุโรปควรใส่เฉพาะสีดำ น้ำเงินเข้มและเทาเข้ม
- การแต่งสูท ( งานพิธีการมักใช้ Suit สีเข้ม - Dark Grey, Blue etc. )
- เลือกผ้าให้ถูกกับฤดูกาล ผ้า Wool สำหรับหน้าหนาว ผ้าบางๆ สำหรับหน้าร้อน/เสื้อเชิ้ตเลือกให้เข้ากับชุดสากล เรียบๆ ไม่ลายพร้อย
- ไม่ควรนำเสื้อสูทหนึ่งไปใส่กับกางเกงของอีกสูทหนึ่งเป็นอันขาด
- ไม่ควรเหน็บปากกาที่กระเป๋าเสื้อนอก หรือโผล่ให้เห็น
- ชุดสากลสีเข้ม เหมาะสำหรับไปร่วมงานที่มีเกียรติ
เสื้อใน
- ใช้สีขาวเป็นหลัก ไม่เช่นนั้นก็ใส่สีเทาอ่อน เทาเข้ม ชมพูอ่อน เขียวมะกอก ฟ้าหรือขาวลายเส้น
- ควรใส่เสื้อสีเรียบๆ เข้ากับสีเสื้อนอก อย่าใช้สีจัดหรือลวดลายฉูดฉาด
- คอเสื้อต้องไม่หลวมไป และไม่คับจนน่าเกลียด คอเสื้อควรพอดีกับผู้ใส่
- ปกเสื้อเชิ้ตต้องเรียบสะอาดเป็นพิเศษ
- เสื้อเชิ้ตควรมีขนาดสุภาพ ไม่ใช่เล็กมากหรือโตจนผิดปกติ
- เสื้อเชิ้ตต้องสะอาด โดยเฉพาะคอเสื้อ, ปก และส่วนหน้าอกซึ่งเป็นส่วนที่โชว์ ต้องรีดเรียบเป็นพิเศษ
- ไม่ควรสวมเสื้อเชิ้ตปกเล็ก ( วัยรุ่น )
ถุงเท้า/รองเท้า/เข็มขัด
ถุงเท้าควรสีเข้มคู่กับสูท รองเท้าหุ้มส้นสีดำหรือเทาเข้ม ไม่ควรใช้รองเท้าขาวและติดโลหะ สีรองเท้าเป็นสีเดียวกับเข็มขัด
นาฬิกา/ปากกา
ใช้นาฬิกาแบบมีเข็มเท่านั้นและอย่าใช้ปากกาถูกๆ เหน็บกระเป๋า
มารยาทในการร่วมงานเลี้ยงที่ดีที่สุดคือ
หมั่นสังเกตคนอื่นรอบๆ ตัว และคอยสังเกตว่าตัวเราทำอะไรผิดแผกแตกต่างจากคนอื่นหรือเปล่า
มารยาทเกี่ยวกับสุภาพสตรี
- ต้องถอดหมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ เวลาเข้าไปอาคาร หรือเวลาทักทายกับสุภาพสตรี
- การเข้าออกประตู หรือเข้า Lift และการขึ้น - ลงรถ ควรให้สุภาพสตรีเข้าออกก่อน และควรถอดหมวก
- กระเป๋า Handbag หรือกระเป๋าถือที่สะพายไหล่เมื่อพบผู้ใหญ่หรือผู้ที่ควรให้เกียรติจะต้องลดลงมาในระดับถือ
- ควรช่วยสุภาพสตรีใส่และถอด Coat เสมอ
- Full Dress ของสุภาพสตรีสำหรับในงานพิธีสำคัญๆ มักใส่หมวก ถุงมือ และรองเท้าหุ้มส้น ถุงเท้า ใยบัว (เว้นชุดไทยพระราชนิยม)
ลำดับความสำคัญของทูตอยู่ต่อจาก
คณะองคมนตรีและคณะรัฐมนตรี
คณะทูต ตปท. ที่อยู่ในไทย
-สถานเอกอัคราชทูต -สถานกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทย -สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ -องค์การระหว่างประเทศของ UN -องค์การระหว่างประเทศอื่น
ลำดับอาวุโสทูตตามประชุมคองเครสแห่งเวียนนาเมื่อ 1815
เรียงอาวุโสมากไปน้อยตามวันที่ผู้แทนทางการทูตที่ยื่นสารตราตั้งก่อนไปหลัง หากไม่ลงรอย ประเทศผู้รับตัดสิน
อาวุโสของคณะทูต
๑. เอกอัคราชทูต ๒. อุปทูต ๓. ผู้แทนจากสถานเอกอัคราชทูต ๔. กงสุลใหญ่อาชีพ ๕. กงสุลอาชีพ ๖. กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ๗. กงสุลกิตติมศักดิ์ ๘. องค์การระหว่างประเทศของ UN เรียงตามลำดับอักษรชื่อหน่วยงาน ๙. องค์การระหว่างประเทศอื่น เรียงตามลำดับอักษรชื่อหน่วยงาน
การเชิญทูตใช้
บัตรเชิญ หรือ หนังสือเชิญ
สิ่งที่ควรแนบในบัตรเชิญทูต
ใบตอบรับ, กำหนดการ, อื่นๆ เช่น บัตรจอดรถ, บัตรเข้างาน, แผนผัง
เวลาในการเชิญทูตควรเชิญก่อนอย่างน้อย
๒ สัปดาห์
พิธีการทูต คือ
ระเบียบแบบอย่าง หรือขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นพิธีการทางความประพฤติ มิใช่กฏหมาย ระบุถึง การให้เกียรติ การต้อนรับ การสนทนา การแต่งกาย การพูดจาทักทาย ตลอดจนการเลี้ยงรับรอง
วันที่เอกอัคราชทูตเข้ารับหน้าที่ก่อนหลังดูได้จาก
หนังสือ Diplomatic and Consular List ของ กต.
การจัดประชุมระหว่างประเทศ คณะผู้แทนนั่งเรียงตาม
คณะผู้แทนนั่งเรียงตามตัวอักษรของประเทศ
การจัดที่นั่งงานเลี้ยงรับรอง
แขกเกียรติยศนั่งที่สำคัญเห็นทัศนียภาพสวยงาม / นั่งตรงข้ามเจ้าภาพ อาวุโสรองนั่งขวา,ซ้ายตามลำดับ อาวุโสถัดไปของไทยนั่งขวา,ซ้ายของแขกเกียรติยศ อาวุโสหญิงตามสามี สลับเพศ คู่สมรสต้องไม่นั่งตรงข้าม สตรีไม่นั่งปิดหัวโต๊ะ อาวุโสเท่าให้เกียรติต่างประเทศหรือหญิง ผู้มีภารกิจคล้ายกันนั่งใกล้กัน
การจัดธงชาติเล็ก
ตั้งตามตัวบุคคลเจ้าของประเทศ
การนั่งรถมีพลขับ
4 . D 1 3 2 หรือ 3 . D 1 . 2
การนั่งรถกรณีคนขับอาวุโส
อาวุโสสูงนั่งคู่คนขับ หญิงนั่งคู่คนขับ
แขนทุกข์ติดด้าน
ซ้าย
การแต่งกายสีเข้มคือ
สีกลุ่มเย็น ได้แก่ ดำ กรมท่า น้ำเงินเข้ม เทา
การแต่งกายสีอ่อนคือ
ผ้าสีเข้มในกลุ่มสีร้อน ที่มีแดง/เหลือง เป็นส่วนผสม เช่น น้ำตาล ม่วง เขียว ไม่ว่าจะเข้มเพียงใด ก็ไม่ถือว่าเป็นสีเข้ม
ชุดลำลอง (Casual)เหมาะสำหรับ
แต่งตัวแบบตามสบายสำหรับงานที่เป็นกันเอง สนิท

ชุดสุภาพ (Smart Casual)
ใช้กับงานที่ไม่เป็นทางการนัก

ชุดสากลกลางวัน (Lounge Suit) เป็นอย่างไร
ชุดสากลสีอ่อน

ชุดสากลกลางคืน (Dark Suit) เป็นอย่างไร
ชุดสากลสีเข้ม

Black Tie ใช้งานอย่างไร
กึ่งพิธีการ งานที่ไม่มีพิธีการมากนัก

Morning Coat เป็นอย่างไร
ชุดพิธีการกลางวัน

Evening Dress / White Tie เป็นอย่างไร
ชุดพิธีการกลางคืน

วัตถุประสงค์งานเลี้ยงทูต
แสดงไมตรี, แลกเปลี่ยนความคิด, เผยความในใจ, หาข่าวจากพันธมิตรและฝ่ายตรงข้าม
งานเลี้ยงรับรองทั่วไป Reception เรียกตามเครื่องดื่มที่เสริฟ์ว่า
งานเลี้ยง Cocktail
งานเลี้ยงรับรองทั่วไปส่วนใหญ่จัด 1800-2000 หากจัดกลางวันเรียกว่า
Vin d’honneur
Luncheon คืองานเลี้ยงใด
งานเลี้ยงอาหารกลางวัน เป็นทางการมากกว่า reception แต่น้อยกว่า dinner แต่งกายชุดสากลสีอ่อน
ขั้นตอนเตรียมงานเลี้ยง
๑. เจ้าภาพงาน ๒. กำหนดประเภทงาน/สถานที่ ๓. รายชื่อแขกที่จะเชิญ ๔. บัตรเชิญ/บัตรวางโต๊ะ ๕. รายการอาหาร ๖. ผังที่นั่ง ๗. การจัดโต๊ะอาหาร
การเลี้ยงอาหารค่ำแบบไหนถือว่าให้เกียรติและแสดงอัธยาศัยที่น่าพึงพอใจมากสุด
แบบนั่งโต๊ะ (Seating Dinner)
การไปถึงงานเลี้ยงอาหารค่ำแขกจะต้องไปถึงงานอย่างน้อย
30 นาทีก่อนเริ่ม เช่น ระบุ 20.00 น. ให้ไป 19.30 น. หรือ ระบุ 20.00 - 21.00 ให้ไป 20.00 (เพราะเขาระบุเวลาเข้างานให้แล้ว)
ถ้ามีผู้ร่วมโต๊ะเท่าไหร่ควรให้เจ้าภาพนั่งกลางโต๊ะแทนที่จะเป็นหัวโต๊ะ
6 คนขึ้นไป
ถ้าหากเชิญทางโทรศัพท์ควรทำอย่างไรหลังเชิญ
ส่งบัตร “To Remind” ตามไป
เวลาการส่งการ์ดเชิญล่วงหน้าควรเป็นเท่าไร
ล่วงหน้า 3 สัปดาห์ และอย่างช้าไม่น้อยกว่า 10 วัน
“Regrets Only” หมายความว่าอย่างไร
บัตรเชิญแบบ หากรับเชิญไม่ได้จึงจะตอบข้อขัดข้องไปให้เจ้าภาพทราบ
p.r. แปลว่า
pour remercier เพื่อขอบคุณ
p.f. แปลว่า
pour fete (feliciter)เพื่ออวยพรหรือแสดงความยินดี
p.f.c. แปลว่า
pour faire connasissence เพื่อแสดงความรู้จัก
p.f.n.a. แปลว่า
pour fete du nouvel an เพื่ออวยพรปีใหม่
p.p.c. แปลว่า
pour prendre conge เพื่อลา
p.c. แปลว่า
pour condoleance เพื่อแสดงความเสียใจ
p.p. แปลว่า
pour presentation เพื่อแนะนำตนเอง
Repondez s’il vous plait แปลว่า
R.S.V.P. กรุณาโปรดตอบ
บัตรเชิญแบบพิมพ์จะต้อง
เขียนชื่อผู้ได้รับเชิญด้วยลายมือเสมอ
ใครเข้าห้องทานอาหารคนแรกและคนสุดท้ายของงาน
เจ้าภาพหญิงเข้าคนแรก เจ้าภาพชายเข้าคนสุดท้าย
ใครเป็นคนเลื่อนเก้าอี้ให้สุภาพสตรีนั่งในโต๊ะอาหาร
แขกผู้ชายด้านซ้ายเลื่อนให้สุภาพสตรีด้านขวาตน
ตำแหน่งที่เจ้าภาพหญิงควรอยู่ในห้องอาหารหลังเดินเข้าไปแล้ว
หน้าประตูแล้วคอยแจ้งที่นั่งแขก หรือ ยืนหลังที่นั่งตนแล้วบอกตำแหน่งที่นั่งของแขก
อาหารควรมีอย่างน้อย 3 อย่าง คือ
1.จานแรก (Appetizer) 2.จานหลัก (Main Dish) 3.ของหวาน-ผลไม้ (Sweet - Fruit) กาแฟหรือชา (Coffee or Tea)
หลักการจัดอาหาร
- สมดุล โภชนาการ/รสชาติ 2. คำนึงรสนิยมและความจำเป็นของแขก 3. หากเป็นงานพิธีการของรัฐ นิยมพิมพ์รายการอาหารเป็นภาษาฝรั่งเศส
ควรใช้เครื่องดื่มอะไรแทนแชมเปญ เมื่อไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เซเว่น-อัพ หรือ สไปรต์
การจัดจาน
1.ส้อมต้องวางหงายซ้าย ถัดมาเป็นจานขนมปังและมีดบนจานหันคมมีดออกจากตัว 2.มีด ช้อน วางขวาเสมอ คมมีดออกนอกตัว 3.มีด ส้อม ช้อน จะต้องหยิบจากชุดที่อยู่ด้านนอกสุดเข้ามาสู่ชุดที่อยู่ด้านในสุดตามลำดับรายการอาหาร 4.ช้อมและส้อมของหวานวางด้านบน 5.แก้ววางไว้ปลายมีอาหารจานหลัก 6.ผ้าเช็ดปากวางไว้บนจาน 7.เปลวเทียนในเชิงเทียนต้องสูงกว่าระดับสายตา
หัวข้อเรื่องไม่น่าสนทนาในวงอาหาร
1.คนรับใช้ 2.ความป่วยไข้ 3.ศาสนา 4.การเมือง
การปฏิเสธเครื่องดื่ม
ใช้นิ้วแตะปากแก้วเมือบริกรริน กล่าวปฏิเสธสุภาพพร้อมขอบคุณเมื่อเจ้าภาพริน
การแนะนำตน
1.แนะนำชายแก่หญิง 2.เพศเดียวกันต้องแนะนำผู้น้อยให้ผู้ใหญ่ 3.ขออนุญาติหญิงก่อนที่จะแนะนำชายให้หญิงรู้จัก 4.หญิงต้องไม่ยื่นมือให้จับ นอกจากเจ้าภาพ 5.ควรแนะนำพร้อมบอกคุณสมบัติพิเศษที่ทั้งสองฝ่ายอาจถูกใจกัน 6.การได้รับเชิญไปบ้านหนึ่งพร้อมกัน แม้ไม่ได้รับการแนะนำก็ถือว่าทำความรู้จักกันได้โดยตนเอง 7.ในงานที่มีการเต้นรำ เจ้าบ้านหญิงสามารถแนะนำชายหญิงให้รู้จักกันได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตหญิงก่อน 8.งานเล็กเรียกชื่อ แต่งานพิธีแนะนำด้วยชื่อสกุล 9.ถ้าไปในงานแล้วประกาศแนะนำชื่อผิด หรือไม่ได้ยิน ท่านสามารถแจ้งเจ้าภาพหญิงทราบและแก้ไขให้เรียบร้อยโดยแนะนำตนเองโดยชื่อตัว ใช้ฐานันดรน้อยสุด 10.มุสลิมถือว่ามือข้างซ้ายสกปรก พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสมือซ้าย 11.การชี้นิ้วไม่สุภาพในบรูไน 12.นั่งไขว่หน้าไม่สุภาพ 13.นามบัตรไม่ควรย่อ มอบด้วยมือขวาหรือ2มือ
การรับรองแขกระดับกระทรวง
1.ผู้แทนเหมาะสมไปรับส่งสนามบิน 2.จัดห้องรับรองพิเศษ 3.จัดรถยนต์รับรอง 4.จัดการหารือหรือข้อราชการ 5.จัดการลงนามความตกลง (หากมี) 6.จัดการแถลงข่าวร่วมกัน (หากมี) 7.จัดงานเลี้ยงรับรองเป็นเกียรติ
การประดับธงชาติคู่หรือร่วมกับธงของต่างประเทศ
- การประดับธงชาติคู่หรือร่วมกับธงของต่างประเทศ จะต้องเป็นไปในลักษณะที่เท่าเทียมกัน เช่น ขนาดและสีของธง และความสูงต่ำของธง เป็นต้น 2. ถ้าประดับหรือชักธงของต่างประเทศประเทศเดียว ต้องให้ธงชาติอยู่ด้านขวาของธงต่างประเทศ 3. ถ้าประดับธงของต่างประเทศเกินกว่าหนึ่งประเทศ เมื่อรวมกับธงชาติแล้วเป็นจำนวนคี่ ให้ธงชาติอยู่ตรงกลาง 4. ถ้าประดับธงของต่างประเทศเกินกว่าหนึ่งประเทศ เมื่อรวมกับธงชาติแล้วเป็นจำนวนคู่ ให้ธงชาติอยู่กลางด้านขวา 5. การประดับธงชาติในสถานที่ หรือมีข้อตกลงระหว่างประเทศ หรือประเทศภาคีกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น เช่น ให้ใช้เรียงตามลำดับอักษร หรือเรียงตามลำดับการเป็นสมาชิก ก็ให้ปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น 6. การประดับธงชาติในการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ โดยปกติให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสมาคมกีฬาระหว่างประเทศ หรือตามหลักสากลที่ยอมรับกันในนานาอารยประเทศ 7. การประดับธงชาติคู่กับธงของต่างประเทศสำหรับรถยนต์ ให้ปักธงชาติไว้ทางด้านขวา และธงของต่างประเทศไว้ทางด้านซ้าย 8. ยานพาหนะอื่นให้ใช้ทำนองเดียวกับข้อ 7. เว้นแต่การประดับบนเรือให้เป็นไปตามธรรมเนียมประเพณีของชาวเรือ
มารยาทในห้องนั่งเล่น/ห้องรับแขก
- ควรแต่งกายให้สุภาพตลอดเวลา เนื่องจากอาจมีคนมาเยี่ยม
- อย่าถอดรองเท้าในขณะที่มีแขก
- ไม่ควรถอดเสื้อนอกเมื่อมีแขก
- ควรสวม Dressing Gown แทนเสื้อนอกหรือทับเสื้อชุดนอนในโอกาสที่ต้องรีบด่วน ไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อ
- ไม่ควรใส่ชุดนอนมานั่งในห้องนั่งเล่น , ห้องรับแขก , ห้องอาหาร หรือเดินนอกบ้าน
- ไม่ควรใส่ Slipper ออกมาเดินนอกบ้าน
- ผู้หญิง หรือผู้ใหญ่มา ควรมีการต้อนรับโดยการยืน
- ไม่ควรสูบบุหรี่ก่อนได้รับความเห็นชอบ หรือการเชื้อเชิญจากเจ้าของบ้านหากสังเกตว่าใน/บ้านไม่มีที่เขี่ยบุหรี่ แสดงว่าเจ้าของบ้านไม่ต้องการให้สูบบุหรี่
- อย่าจับต้องหรือขยับเขยื้อนของประดับในบ้าน เช่น หยิบดูรูปภาพ จับตุ๊กตา ฯลฯ
- อย่าเอามือไปจับต้องโต๊ะ หรือเครื่องเงินจนเป็นรอยมือ
- อย่าเปิดโทรทัศน์หรือวิทยุเสียงดัง
- เมื่อเข้าในบ้านหรืออาคารต้องถอดหมวก, Overcoat, ถุงมือ, ผ้าพันคอ
- อย่านั่งเขย่า หรือสั่นขา หรือเคาะนิ้ว/อย่าเกาศีรษะ เสยผมมากจนเสียบุคลิก
- เข้าสโมสรนายทหาร (Mess) ต้องถอดหมวก, Overcoat ถุงมือ
มารยาทในห้องนอน
- ปิดม่านห้องนอนก่อนแล้วจึงปิดไฟ ควรปิดม่านหน้าต่างของห้องทุกครั้งที่อยู่ในห้องนอน ไม่ว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน เพราะคนภายนอกจะมองเห็น
- ประหยัดไฟฟ้าโดยการดับเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อไม่อยู่ในห้องหรือหมดความจำเป็น
- อย่าเปิดวิทยุ โทรทัศน์ จนเสียงดังรบกวนห้องข้างเคียง
- ไม่แต่งชุดนอนออกจากห้องนอน โดยเฉพาะในโรงแรม และที่พักสาธารณะ
- ไม่สูบบุหรี่ บนเตียงโดยเด็ดขาด
- ไม่คุยกันเสียงดังหรือร้องเพลงเสียงดังอันเป็นการรบกวนห้องข้างเคียง
- ไม่สูบบุหรี่มากจนเกินไปจะมีกลิ่นรบกวนไปทั่วไม่เปิดหรือปิดประตูเสียงดัง บริเวณ และไม่สูบบุหรี่ในห้องที่กำหนดเป็น Non - smoking Room หรือ Non - smoking Floor เป็นอันขาด
- ควรใส่ Dressing Gown เวลาออกจากห้องนอน
- ต้องปิดประตูทุกครั้งที่เข้า หรือออกจากห้องนอน
- ไม่ควรเดินเสียงดังในห้องนอน เพราะจะเป็นการรบกวนคนที่อยู่ในห้องชั้นล่าง
- ไม่ควรนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาเดินนอกห้องนอน ( พบเห็นบ่อยๆ )
มารยาทในห้องน้ำ
- ต้องใส่กลอนประตูเมื่อเข้าห้องน้ำทุกครั้ง ( บางคนชอบเพียงปิดงับเมื่อปัสสาวะ )
- ชักโครกทุกครั้งที่ปัสสาวะ, ทิ้งกระดาษ
- การใช้ส้วมชักโครกปัสสาวะ สุภาพบุรุษต้องยกไม้รองหรือพลาสติกรองนั่งขึ้นเสียก่อนแล้วจึงปัสสาวะ
- ไม่ทำให้ที่นั่งส้วมสกปรกหรือเปียกน้ำ
- เมื่อใช้อ่างล้างหน้าแล้ว ต้องทำความสะอาด และเช็ดให้แห้ง
- เมื่อใช้อ่างอาบน้ำแล้ว ต้องรักษาความสะอาด และเช็ดให้แห้งเสมอ
- ถ้าเป็นอ่างที่ใช้รวมกันต้องเช็ดให้แห้ง
- ห้ามสูบบุหรี่ในห้องน้ำหรือห้องส้วม
- ถ้าเป็นห้องน้ำรวม ต้องไม่ใช้นานเกินควร/ต้องทำความสะอาดเมื่อใช้ห้องน้ำแล้ว
- ทุกครั้งที่ล้างหน้าตอนเช้า ต้องโกนหนวด โกนเคราทุกวัน
- การใช้ฝักบัว : ต้องรูดม่านให้ชายม่านอยู่ในอ่าง/ทำความสะอาดก่อนออก/
- เช็ดเท้าให้แห้ง โดยปกติผ้าเช็ดเท้ามักจะวางที่ขอบอ่าง/อย่าตักน้ำมาอาบนอกอ่าง
- ห้ามนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาเดินนอกห้อง
- ห้ามถอดเสื้อออก เช่น นุ่งกางเกงชั้นในหรือนุ่งผ้าเช็ดตัวมาเดินใน Corridor
- ห้ามล้างเท้าในอ่างล้างหน้า
- ต้องชักโครกทุกครั้งที่ใช้
มารยาทในสนาม สวน บริเวณ/สำนักงาน
-รักษาบริเวณให้เรียบร้อย อย่าปล่อยให้หญ้าขึ้นรกรุงรัง
ภเก็บใบไม้ให้เรียบร้อย
-ไม่ทิ้งก้นบุหรี่ลงบนสนามหญ้า
-ไม่ควรมีขยะหรือเศษกระดาษ ถุงพลาสติก ทิ้งอยู่ในบริเวณบ้าน
-ต้องเก็บกวาดใบไม้และ/หรือ หิมะ เกล็ดน้ำแข็ง บริเวณทางเท้าหน้าบ้านหรือหน้าสำนักงานให้สะอาด เรียบร้อยเสมอ ในบางประเทศหากมีผู้ลื่นล้มหน้าบ้านหรือสำนักงานถือว่าเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของบ้านหรือสำนักงานนั้นแม้ว่าจะอยู่นอกเขตก็ตาม
มารยาทในสำนักงาน
- แต่งกายให้เรียบร้อยเสมอ
- เครื่องเงิน เครื่องโลหะ หรือเครื่องกระจก จะต้องเช็ดถูให้สะอาด ไม่มีรอยมือติด
- จัดระเบียบสำนักงานให้เรียบร้อยสะอาดสะอ้าน
- พื้นปูพรมจะต้องดูดฝุ่นให้สะอาดเสมอ
ห้องรับรอง – รับแขก
- จัดให้เรียบร้อยพร้อมรับแขกเสมอ/ไม่ทิ้งของเกะกะ เช่น รองเท้าแตะ เสื้อผ้า ฯลฯ
- ที่เขี่ยบุหรี่สะอาดและต้องเทขี้บุหรี่และทำความสะอาดตลอด
- เวลา -ถ้าไม่ประสงค์ให้มีการสูบบุหรี่ ก็ไม่ต้องวางไว้
- การเสิร์ฟชา – กาแฟ มีจานรองถ้วยแก้ว มีช้อน และที่ใส่น้ำตาล นม แยกต่างหาก
- แก้วน้ำควรมีที่รองแก้วน้ำ ควรเสิร์ฟจากถาด อย่าถือมาเป็นถ้วยๆ
ห้องน้ำ
- ต้องไม่มีคราบ หรือตะกอนสกปรกในอ่างล้างหน้า, ที่ปัสสาวะ, อ่างอาบน้ำ, ชักโครก
- รักษาความสะอาดเสมอ และควรเช็ดให้แห้งตลอดเวลาหรือหลังจากที่ใช้งานแล้ว
- มีของใช้จำเป็นพร้อม เช่น สบู่ ผ้าเช็ดมือ กระดาษชำระ ยาดับกลิ่น หรือ Air Refresher
บริเวณสำนักงาน
-รักษาบริเวณให้สะอาดเรียบร้อย อย่าให้หญ้าขึ้นรกรุงรัง/ไม่ควรทิ้งบุหรี่บนสนาม กวาดเก็บใบไม้เสมอ/ถ้าเป็นพื้นพรมต้องดูดฝุ่นหรือเศษผงให้สะอาดเรียบร้อยตลอดเวลา/ถ้ามีโลหะ เช่น ลูกบิดประตู/ราวบันได ควรเช็ดถูให้สะอาด
มารยาทในการแต่งกาย
- ไม่ควรแต่งชุดสากลไปในงานทหาร เช่น งาน Reception วันกองทัพต่างๆ ควรแต่งเครื่องแบบ
- ไม่ควรใส่กางเกงยีนส์ไปนอกบ้านเพื่อไปในงานพิธี หรืองานสำคัญ ( กางเกงยีนส์ใส่เฉพาะงานแบบกันเองหรือในบ้าน ) ร้านอาหาร/ภัตตาคาร บางแห่งอาจไม่อนุญาตให้สวมกางเกงยีนส์เข้าไป
ว่าด้วยเรื่องรองเท้า
- ขัดรองเท้าให้มันเงาเสมอ
- รองเท้าดำ มักใส่ประกอบกับผ้าสีดำ น้ำเงิน สีเทา ฯลฯ ( อย่าเอา-รองเท้าสีอ่อนมาใส่ประกอบ Suit)/รองเท้าสีน้ำตาลมักใส่ประกอบกับผ้าสีน้ำตาล สีเนื้อ
- ไม่ควรใส่ถุงเท้าสีฉูดฉาด และต้องเข้ากับสีของสูท และรองเท้าเสมอ
- ถ้าเป็นรองเท้าชนิดด้าน หรือหนังกลับ ควรให้สะอาด
- ไม่ควรใส่รองเท้าสีขาว, สีนวล กับ Suit ซึ่งมักถือว่าไม่สุภาพ นอกเสียจากในโอกาสที่มีงานเลี้ยงบนเรือ หรืองานเลี้ยงที่ไม่ใส่เสื้อนอกที่เป็นงานกันเองจริงๆ
- ไม่ควรนำรองเท้าสำหรับเครื่องแบบมาสวมใส่เวลาแต่งชุดสากล หรือชุดพลเรือน
ว่าด้วยเรื่องความสะอาด
- เล็บมือ ควรตัดให้สั้นและสะอาดเสมอ
- รักษาผมให้เรียบร้อย
- โกนหนวดเคราทุกวัน หากไปงานกลางคืน ควรโกนอีกครั้งก่อนไปงาน
- เสื้อผ้าที่ใส่ควรสะอาดเรียบร้อย ไม่ยับยู่ยี่ และไม่เก่าจนเกินไป
- อย่าให้มีรังแคตกอยู่บนเสื้อผ้าที่ใส่
- Suit ควรรีดให้เรียบเสมอ อย่าให้ซ้ำซาก โดยไม่รีด ( Suit ที่สวยควรส่งซักเสียบ้างอย่าเอาแต่รีดทับ )
มารยาทในการปฏิบัติตนในสังคม
- หากต้องจับมือกับสุภาพสตรี ควรถอดหมวกและถุงมือก่อน
- ก่อนเข้าประตู ควรเคาะประตูก่อน และปิดประตูหลังเข้าไปแล้ว
- การเข้าออกประตู หรือเข้า Lift และการขึ้น - ลงรถ ควรให้สุภาพสตรีเข้าออกก่อน และควรถอดหมวก เพื่อให้เกียรติ
- อย่าคาบบุหรี่เวลาคุย หรือสูบบุหรี่/ ในเวลาสถานที่ที่ไม่สมควรหรือเดินถือบุหรี่ไปมาและเมื่อได้จุดบุหรี่แล้ว เมื่อจะทิ้งต้องดับให้สนิทและทิ้งในที่เขี่ยบุหรี่เสมอ ห้ามทิ้งลงบนพื้นเด็ดขาด
- ผู้หญิงกับผู้หญิง หรือ ผู้ชายกับผู้ชาย อย่าเดินหรือยืนกอดเอวหรือคล้องแขนกันหรือจูงมือกัน ซึ่งในทัศนะของตะวันตกถือว่าเป็นการกระทำเยี่ยงพวกลักเพศ
- ไม่ควรลูบขาหรือลูบตัวของเพื่อนที่เป็นเพศเดียวกัน
- ต้องถอดหมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ เวลาเข้าไปในอาคาร หรือเวลาทักทายกับสุภาพสตรี
- กระเป๋า Handbag หรือกระเป๋าถือที่สะพายไหล่เมื่อพบผู้ใหญ่หรือผู้ที่ควรให้เกียรติจะต้องลดลงมาในระดับถือ
- ควรช่วยสุภาพสตรีใส่และถอด Coat เสมอ
- เมื่อเปิดของขวัญต่อหน้าผู้ใหญ่ควรระมัดระวัง อย่าฉีกกระดาษห่อ ควรค่อยๆ แกะอย่างปราณีต
- ไม่ควรใส่หรือใช้เสื้อเชิ้ต เน็คไท และโบว์ สีดำหรือสีเข้มในงานมงคล เช่น งานสมรสหรืองานวันเกิด
- Full Dress ของสุภาพสตรีสำหรับในงานพิธีสำคัญๆ มักใส่หมวก ถุงมือ และรองเท้าหุ้มส้น ถุงเท้า ใยบัว (เว้นชุดไทยพระราชนิยม)
- การจะไปพบใคร ควรโทรไปนัดหรือมีหนังสือนัดล่วงหน้าและไม่ควรไปพบใครที่บ้านโดยไม่นัดล่วงหน้าเป็นอันขาด
- จะเยี่ยมใครในโรงแรมควรโทรขึ้นไปหาอย่าตรงไปยังห้องพัก ไม่ควรเดินไปเคาะประตูที่ห้องพัก
- จะต้องกล่าวขอบคุณทุกครั้งที่ผู้อื่นช่วยเหลือทำงานให้ เช่น ส่งของให้ รับอาสาทำงานแทนให้
- จะต้องกล่าวขอโทษเสมอที่เห็นว่าได้กระทำสิ่งที่ไม่สมควรลงไปโดยไม่ตั้งใจ เช่น มาสายกว่าเวลานัด
- อย่าถามเงินเดือน/รายรับของผู้อื่น เพราะถือว่ามารยาทไม่ดี
- ไม่ควรถามอายุของแขก
- หากได้นัดหมายใครไว้ และไม่สามารถไปได้หรืออาจไปช้ากว่ากำหนดเวลา ควรโทรศัพท์แจ้ง ( หรือหากรู้ล่วงหน้าควรมีหนังสือแจ้ง ) โดยเร็วที่สุด
- การจะไปพบใครตามนัดหมายไม่ว่าที่บ้านหรือสำนักงานควรแจ้งด้วยว่ามีใครติดตามไปด้วย และสอบถามเจ้าบ้านหรือผู้ที่จะไปพบว่า ยินดีให้ไปพบด้วยหรือไม่ ในบางแห่งจะต้องแจ้งลักษณะ และทะเบียนรถ ด้วย หากมีของขวัญหรือของฝากควรแจ้งให้ผู้รับทราบล่วงหน้าเสมอ
- เมื่อมีผู้มอบนามบัตรให้ควรมอบตอบเสมอ หรือกล่าวขออภัยแล้วส่งให้ในภายหลัง
มารยาทในการดื่มถวายพระพร
-ไม่ดื่มถวายพระพรหรือดื่มให้ประมุขของประเทศในงานที่ไม่ใช่งานที่มีเกียรติสูงสุด อย่างไรก็ดี งานที่จัดขึ้นอย่างมีพิธีการ เป็นระเบียบเรียบร้อย และ/หรืองานซึ่งจัดขึ้นซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือพระราชินี ซึ่งในงานมีผู้แทนพระองค์หรือพระราชวงศ์ระดับสูง หรือองคมนตรีอยู่ในงานด้วย ก็อาจพิจารณาเชิญชวนดื่มถวายพระพรได้ แต่ทั้งนี้ สำนักพระราชวัง เคยชี้แจงว่าให้เป็นไปโดยควรแห่งพระเกียรติยศและเป็นการปฏิบัติด้วยความจงรักภักดี สุดแต่อัธยาศัยและสุดแต่โอกาส
มารยาทบนโต๊ะอาหาร
- อย่าเรอบนโต๊ะอาหารโดยเด็ดขาด
- ไม่ควรผิวปาก หรือดีดนิ้ว เวลาเรียกพนักงานบริการอาหาร
- ในการดื่มอวยพร หากเจ้าภาพดื่มให้ท่าน ไม่ควรลุกขึ้นมาร่วมดื่ม ควรนั่งเฉยๆ และก้มศีรษะขอบคุณเท่านั้น หรืออาจลุกขึ้นยืนเพื่อชนแก้วหรือยกแก้วให้กับผู้เชื้อเชิญ เพื่อแสดงไมตรีจิตและขอบคุณ แต่ต้องไม่ร่วมดื่มให้กับตัวเอง
- เมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรจับต้องเครื่องเงินเล่นหรือพลิกจานชามเพื่อดูยี่ห้อ
- ท่านมีหน้าที่ดูแลคนที่นั่งด้านขวามือเป็นหลักทั้งในการบริการส่งต่อหรือในการสนทนา ตลอดระยะเวลาที่นั่งอยู่ในโต๊ะอาหาร แต่ก็ไม่ควรละเลยบุคคลด้านซ้าย
- หากท่านต้องการเกลือ พริกไทย หรือของส่วนกลางบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะแต่หยิบไม่ถึง ให้ใช้วิธี ขอให้ส่งผ่าน ไม่ควรใช้การเอื้อมหรือลุกขึ้นยืนหยิบ เมื่อท่านใช้เสร็จแล้วควรส่งต่อเวียนขวา ถ้าเป็นการส่งต่อ เกลือ พริกไทย ควรส่งต่อพร้อมกัน เครื่องเคียงทุกอย่างรวมถึงผักดองควรวางไว้ข้างจานและตักแบ่งใส่อาหาร ทีละคำ จะมีเฉพาะเนยแข็งบด พริกไทย เกลือ ที่จะโรยบนอาหารทั้งจานโดยตรง
- พึงหลีกเลี่ยงการขออะไรที่ไม่ ได้เตรียมไว้บนโต๊ะเพราะเท่ากับเป็นการต่อว่าเจ้าภาพว่าเตรียมโต๊ะไม่พร้อม และถ้าเจ้าภาพไม่มี เจ้าภาพจะยิ่ง ไม่สบายใจ
- อย่าใส่เครื่องปรุงอาหารก่อนชิม เพราะเป็นการดูถูกว่ารสอาหารที่ปรุงมาไม่พอดี ควรชิมอาหารเสีย ก่อนจึงค่อยเติมเครื่องปรุงอาหาร
- อย่านำเครื่องปรุงส่วนตัว เช่น น้ำปลา พริกป่น ไปในงานเลี้ยงรับประทานอาหาร
- การรับประทานอาหารให้หมดจานเป็นการแสดงออกถึงความอร่อยของอาหาร และเป็นการ ให้เกียรติแก่เจ้าภาพ ไม่ควรที่จะจงใจเหลืออาหารไว้ในจาน หรือตักมากเกินไปจนเหลือมากแสดงถึงความ ฟุ่มเฟือย ไม่มัธยัสถ์
- ถ้ามีอาหารบางอย่างที่ท่านรับประทานไม่ได้ (เช่น เพราะแพ้อาหาร นั้น) ท่านควรแจ้งเจ้าภาพตั้งแต่ ตอนตอบรับคำเชิญ แต่หากทำไม่ได้ควรเลือกรับประทานอย่างอื่นในจาน และหลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ หรือถ้าเป็นแบบเสิร์ฟ ท่านสามารถตักของที่แพ้เพียงแต่น้อย และตักอย่างอื่นเพิ่มขึ้นชดเชย การปฏิเสธ WINE ไม่ถือว่า เป็นการผิดมารยาทแต่ประการใด
- ในระหว่างการรับประทานอาหาร หากสุภาพสตรีด้านขวามือลุกขึ้นจากโต๊ะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะต้องรีบลุกขึ้นและเลื่อนเก้าอี้ให้สุภาพสตรีผู้นั้น
- หากท่านมีกิจธุระจำเป็นจะต้องลุกจากโต๊ะ ควรขอโทษเจ้าภาพ ก่อนลุกขึ้นไปทำธุระ การพักการรับประทานอาหารในกรณีเช่นนี้ ส้อมและมีดควรวางทำมุมกันประมาณ 100 องศา โดยคว่ำส้อมและหันคมมีดไปทางซ้าย
- หากพักระหว่างรับประทานอาหารให้วางเครื่องเงินบนจานทำมุมกันประมาณ 100 องศา อย่าวางกับ ผ้าปูโต๊ะหรือรวบส้อมมีดซึ่งหมายถึงการอิ่มคอร์สนั้น
- ไม่ควรคุยเสียงดังหรือคุยข้ามโต๊ะ โดยเฉพาะหัวโต๊ะและท้ายโต๊ะ ควรจะคุยระหว่างคนข้างเคียง
- หลังจากได้รับบริการอาหารแล้ว อย่าส่งต่ออาหารให้ผู้อื่น เพราะการเสิร์ฟอาหารเป็นหน้าที่ของบริกร
- การดื่มน้ำควรใช้ผ้าเช็ดปากซับปากเสียก่อนเพื่อป้องกันคราบอาหารติดที่ขอบแก้ว
- อย่าแลกอาหารหรือแบ่งอาหารบางส่วนของตนให้ผู้อื่นแม้จะอยู่ในโต๊ะอาหารเดียวกัน - ไม่ควรใช้ไม้จิ้มฟันในโต๊ะอาหาร
- ไม่เรียกเครื่องดื่มที่ตนชอบมารินอีกเมื่ออาหารและเครื่องดื่มชุดนั้นผ่านไปแล้ว
- ไม่ดื่มน้ำจากชามล้างมือ ชามล้างมือนี้จะจัดไว้ให้ในกรณีที่มีอาหารซึ่งต้อง หรือนิยมรับประทานด้วยมือได้ จะสามารถสังเกตชามล้างมือได้ชัดเจนเพราะมักจะมีแว่นมะนาว
- กิริยาอาการบางอย่างในการรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ไม่สุภาพ เช่น การพูดในระหว่างมีอาหาร เต็มปาก การทำเสียงในระหว่างเคี้ยวหรือกลืน การรับประทานอาหารคำใหญ่เกินไป หรือการเรอเสียงดัง
มารยาทบนโต๊ะจีน
- อย่าคายหรือทิ้งเศษอาหารบนโต๊ะหรือที่พื้น ให้ทิ้งแอบไว้ข้างจาน – ถ้วยหรือชามที่จัดมาเฉพาะ
- อย่ากระแทกปลายตะเกียบบนโต๊ะจนมีเสียง
- อย่าตัดอาหารจำพวกหมี่ในงานวันเกิด
- อย่ากลับปลาทั้งตัวเมื่อทานด้านหนึ่งหมดแล้ว โดยเฉพาะเมื่อชาวเรือมาร่วมโต๊ะ
- อย่าดูดตะเกียบ
- อย่าใช้ช้อนกลาง (ช้อนที่มีด้ามจับยาว ปกติอาจวางไว้ข้างตะเกียบ) ในการรับประทานอาหาร หรือรับประทานซุป สำหรับช้อนซุปมักเป็นช้อนกระเบื้องเคลือบจะจัดวางแยกไว้ในที่วางช้อน ซุปหรือในถ้วย